จากกรณี ที่ทางนักศึกษาจัดกิจกรรม งานเปิดตัว ขบวนนักศึกษาแห่งชาติ หรือ Pelajar Kebangsaan Patani หรือPelajar Bangsa พร้อมปาฐากถาพิเศษ เรื่อง “สิทธิในการกำหนดอนาคตตนเอง (Self Determination) กับสันติภาพปาตานี รวมทั้งได้มีการจัดพิมพ์บัตรเพื่อร่วมแสดงความเห็น ในประเด็น “ให้ประชาชนปาตานีสามารถออกเสียงประชามติแยกตัวเป็นเอกราชได้อย่างถูกกฎหมาย” โดยมีนักการเมือง นักกิจกรรม และนักศึกษาเข้าร่วม เมื่อวันพุธที่ 7 มิ.ย.66 ณ ห้องประชุมศรีวังสา ตึกรัฐศาสตร์ ม.อ.ปัตตานี โดยกิจรรมดังกล่าว สร้างความคิดเห็นที่แตกต่างกันของสังคม โดยเฉพาะในเรื่องของการประชามติจำลอง โดยมีข้อความว่า “คุณเห็นด้วยกับ สิทธิในการกำหนดชะตากรรมตนเอง หรือไม่ ที่จะให้ประชาชนปาตานีสามารถออกเสียงประขามติแยกตัวเป็นเอกราชได้อย่างถูกกฎหมาย” สร้างความแตกตื่นให้กับประชาชน รวมถึง เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงในพื้นที่ ที่เห็นว่าเป็นประชามติที่ต้องการแบ่งแยกดินแดน
จากเหตุการณ์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ฝ่ายมั่นคงไม่นิ่งเฉย ทางด้านพล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาค 4 ในฐานะผอ.รมน.ภาค 4 มอบให้ พ.อ.เฉลิมชัย สุทธินวล ผอ.สกส. กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เข้าพบพนักงานสอบสวนสภ.เมืองปัตตานี เพื่อยื่นหนังสือกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อให้พนักงานสอบสวนทำการสืบสวนสอบสวนดำเนินการตามกฎหมาย กับบุคคลและคณะบุคคล ทั้งกลุ่มนักศึกษา พรรคการเมือง นักการเมืองภาคประชาสังคม ดังกล่าว เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องและสืบสวนหาข้อเท็จจริง และได้มีการเรียกตัวกลุ่มบุคคลดังกล่าวเข้ามาให้ข้อมูลเพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน
ล่าสุดในวันนี้ (8 ธ.ค.66) ณ สถานีตำรวจภูธรเมืองปัตตานี เจ้าหน้าที่ได้เรียกกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการจัดกิจกรรมดังกล่าว จำนวน 5 นาย ประกอบด้วย นายฮากิม พงติกอ อดีตรองเลขาธิการพรรคเป็นธรรม นายอาเต็ฟ โซ๊ะโก ประธาน The Patani นายอิรฟาน อุมา ประธานขบวนการนักศึกษาแห่งชาติ นายสารีฟ สะแลมัน และ นายอุซเซ็น บือแน สมาชิกขบวนการนักศึกษาแห่งชาติ ได้เดินทางมา พร้อมด้วย นายอาบีบุสตา ดอเลาะ ทนายความ เพื่อรับทราบข้อกล่าว โดยทางเจ้าหน้าได้มีแยกบุคคลทั้ง 5 ราย เพื่อทำการสอบสวนเพิ่มเติม ทางเจ้าหน้าที่ได้จัดทนายความไว้ให้กับกลุ่มคนดังกล่าว แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ ทางกลุ่มขอให้ผู้ที่ได้รับความไว้วางใจซึ่งได้จัดมาเอง เพื่อเข้าร่วมรับฟังด้วย
การสอบสวนใช้เวลา กว่า 3 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 116 คือ ผู้ใดกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือ เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ต้องระวางโทษไม่เกิน 7 ปี ซึ่งทั้งหมดทั้ง 5 รายถูกข้อหาเดียวกันหมด จากนั้นก็ได้ลงบันทึกประจำวัน โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธ ก่อนจะมีการปล่อยตัว เพื่อต่อสู้คดีต่อไป
ด้านนายอาเต็ฟ โซ๊ะโก ประธาน The Patani 1 ในผู้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 116 เปิดเผยว่า มารับฟังข้อกล่าวหา “เป็นการตรวจสอบเรื่องที่เรายึดมั่นเชื่อมั่น เราเชื่อว่าสิทธิเสรีภาพ เป็นเรื่องที่มนุษย์ทุกคนคอยหา เป็นสิ่งที่เรายืนยันมาตลอด ที่จริงแม่ทัพภาค 4 ไม่ใช่คู่กรณีเรา เขาเป็นเหยื่อของโครงสร้างที่มีปัญหาของประเทศนี้ ครั้งนี้จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า รัฐอยากแสวงหาทางออกจากความขัดแย้งด้วยวิถีการทางการเมืองอย่างสันติหรือไม่ สอดคล้องกับกระบวนการสันติภาพ สอดคล้องกับเรื่องวาระแห่งชาติที่รัฐนี้ได้พูดถึงหรือไม่ ปัญหาทั้งหมด ไม่ใช่เป็นปัญหาการแสดงสิทธิเสรีภาพ แสดงความคิดเห็นของเรา แต่เป็นปัญหาและมุมมองของผู้ใช้อำนาจ ทางกฎหมาย เป็นปัญหาของวิธีคิด ของรัฐที่มีความเป็นอำนาจนิยมสูง แท้จริงการหาทางออกที่มีความขัดแย้ง ที่มีการหักกันด้วยอาวุธ สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อว่า เป็นจุดร่วมระหว่างเราก็คือ การดึงทุกฝ่ายไปหาทางออกทางการเมือง การทำให้ทุกฝ่ายมีทิศทางในการต่อสู้ที่ไม่ทำให้ผู้บริสุทธิ์สูญเสีย สิ่งนี้ต่างหากที่เป็นทางออกระยะยาวของทุกฝ่าย”
นายอาบีบุสตา ดอเลาะ ทนายความ เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะยื่นคำให้การเป็นหนังสือ เพื่อตอบคำถามทั้งหมดของพนักงานสอบสวนได้ตั้งคำถามไปยังบุคคลทั้ง 5 คน เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของทางวิชาการ ทางการเมือง สิทธิทางรัฐธรรมนูญ เกฎหมายระหว่างประเทศ สันติภาพ เพื่อการให้ปากคำเป็นไปอย่างรอบขอบในทุกด้าน ทั้งข้อเท็จจริงความเห็นและมุมมองในทุกด้าน
องค์กรเครือข่ายสิทธิมนุษยชนปาตานี – HAP ออกแถลงการณ์ ขอให้ยุติการดำเนินคดีนักกิจกรรมปัตตานีทันที องค์กรสิทธิมนุษยชนตามรายนามนี้ เห็นกิจกรรมการลงประชามติจำลอง เป็นสิทธิในการแสดงออกทางความคิดที่ต้องได้รับการคุ้มครอง ขอเรียกร้องให้พลโทศานติฯ ถอนแจ้งความในทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข เพื่อให้เกิดบรรยากาศที่ดีในการมีส่วนร่วมในการดำเนินการพูดคุยสันติภาพจังหวัดชายแดนใต้ คือ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากกฎหมายพิเศษ JASAD องค์กรเครือข่ายสิทธิมนุษยชนปาตานี – HAP และกลุ่มด้วยใจ
พื้นที่โฆษณา
